ประวัตินักบาส เลบรอน เจมส์ ตำแหน่งสมอลฟอร์เวิร์ด ฉายา King James

ในดราฟปี พ.ศ. 2546 (ค.ศ. 2003), เจมส์ ได้รับเกียรติที่จะเป็นผู้ถูกคัดเลือกเป็นคนแรกโดยทีมคลีฟแลนด์ คาวาเลียส์ ทำให้เขาเป็นต้นแบบที่ได้รับความสนใจจากสาธารณชนอย่างมาก โดยเขาได้ทำสัญญาร่วมกับบริษัทไนกี (Nike) มูลค่า 90 ล้านเหรียญสหรัฐก่อนที่จะขึ้นสนามเล่นในเอ็นบีเอเกมแรกของเขา ไม่เสียเปรียบกับความคาดหวังจากผู้สนับสนุน, เขาได้ทำให้แฟนๆ ทุกคนประทับใจเมื่อให้ประสบการณ์ที่น่าจดจำในทุกฤดูกาล โดยเฉลี่ยตลอดฤดูกาลเขาได้ทำได้เป็นอย่างดีด้วยการทำประตูเฉลี่ย 20.9 แต้ม, รีบาวด์ 5.4, แอสซิสต์ 5.9 และได้รับรางวัลผู้เล่นใหม่ยอดเยี่ยม (Rookie of the Year) อย่างน่าประทับใจ แม้ทีมจะไม่สามารถเข้าร่วมเพลย์ออฟได้ในฤดูกาลนั้น

ในปี พ.ศ. 2546, เลอบรอน เจมส์ เป็นเพื่อนสนิทกับ CARMELO ANTHONY จากทีม DENVER NUGGETS และ DWYANE WADE จากทีม MIAMI HEAT ในช่วงท้ายของฤดูกาลนั้น เขาได้ร่วมทีมโอลิมปิกของสหรัฐอเมริกาที่กรุงเอเธนส์ ประเทศกรีซ พร้อมทั้งนำทักษะที่ได้เรียนรู้ในฤดูกาลนั้นมาใช้

ในตอนนั้น, เจมส์ กลายเป็นนักบาสเก็ตบอลคนแรกที่ทำทริปเปิล-ดับเบิล (10 คะแนน, 10 รีบาวด์, และ 10 แอสซิสต์) ในเกมที่อายุน้อยที่สุด และยังทำคะแนนถึง 50 แต้มในเกมเดียวที่อายุน้อยที่สุดเช่นกัน แม้ว่าผลงานที่น่าประทับใจนี้จะเป็นที่นิยม ทีมคาวาเลียส์ก็ยังไม่สามารถเข้ารอบเพลย์ออฟได้ในฤดูกาลนั้น 

ในฤดูกาล 2005-06, ทีมคาวาเลียส์ได้ทำการปรับปรุงทีมด้วยการเสริมสร้างด้วยนักบาสเก็ตบอลทีมใหม่ เช่น ลาร์รี ฮิวส์ (Larry Hughes) ซึ่งทำให้แฟนและนักข่าวมีความหวังว่าเจมส์จะสามารถนำทีมไปสู่รอบเพลย์ออฟในฤดูกาลนี้

ในฤดูกาล 2009-10, ทีมคาวาเลียส์มีโอกาสลุ้นเข้าถึงแชมป์ NBA PLAYOFF 2010 โดยมีนักบาสเก็ตบอลทีมเด่นอย่าง FORWARD ดาวรุ่ง เจเจฮิกสัน และ PG mo wililem อย่างมีความมุ่งมั่น อย่างไรก็ตาม, ทีมสุดท้ายกลับต้องยอมพ่ายแพ้ในรอบประกาศผลสุดท้าย จากการเผชิญหน้ากับคู่แข่งปรับอีกทีมหนึ่งอย่าง บอสตันเซลติก

ในฤดูกาล 2010-2011, เลอบรอน เจมส์ สิ้นสภาพสัญญากับทีมคาวาเลียส์ และได้ทำสัญญายาวนาน 6 ปีกับทีม Miami Heat ร่วมกับ Dwyane Wade และ Chris Bosh เพื่อสร้างทีมที่แข็งแกร่งและมีความเป็นทางการในระยะยาว

เครดิตรวบรวมทั้งหมด : SCORE365

เพิ่มเติม : Line@

ตารางคะแนน

ทีเด็ดบอลเต็งประจำวันที่ 24/4/65