แขวนสตั๊ดเพิ่มอีกราย รามิเรส ประกาศเลิกเล่น พร้อมเผยความในใจตลอดเส้นทางค้าแข้ง
แขวนสตั๊ดเพิ่มอีกราย

แขวนสตั๊ดเพิ่มอีกราย รามิเรส ประกาศเลิกเล่น พร้อมเผยความในใจตลอดเส้นทางค้าแข้ง

ประกาศเลิกเล่นอีกรายแล้วสำหรับ รามิเรส อดีตกองกลางอันแข็งแกร่งของ “เชลซี” ออกมาประกาศแขวนสตั๊ดแล้วในวัย 35 ปี พร้อมยังเผยทุกความในใจตลอดเส้นทางการค้าแข้งที่ผ่านมาของเจ้าตัว

วันพฤหัสบดีที่ 29 กันยายน พ.ศ. 2565 ถือเป็นรุ่นให้ในวงการนักเตะที่ออกมายืนยันเลิกเล่นเพิ่มอีกรายแล้วต่อจาก จอห์น โอบี มิเกล , ฟาเบียน เดลฟ์ และสำหรับ รามิเรส อดีตกองกลางคนดังชาวบราซิลของ สิงโตน้ำเงินคราม เชลซี ทีมดังแห่งศึก พรีเมียร์ลีก อังกฤษ ประกาศเลิกค้าแข้งอย่างเป็นทางการด้วยวัย 35 ปี พร้อมทั้งเผยทุกความในใจตลอดเส้นทางค้าแข้งที่ผ่านมาของเจ้าตัวเอง

ต้องย้อนกลับไปยังเมื่อปี 2010 รามิเรส ย้ายจาก เบนฟิกา สโมสรชื่อกึกก้องของ พรีเมยรา ลีกา โปรตุเกส มาสู่ชายคาของ สแตมฟอร์ด บริดจ์ ด้วยค่าตัวราวๆ 19 ล้านปอนด์ หรือประมาณเป็นเงินไทย 772 ล้านบาท โดยตัวเขาก็มีส่วนสำคัญในการพาสโมสรต้นสังกัดไปคว้าแชมป์รายการหลักอย่าง พรีเมียร์ลีก, ยูฟ่า แชมเปียนส์ลีก และเอฟเอ คัพ อย่างละ 1 สมัย นอกจากนี้เขายังเคยผ่านการค้าแข้งกับ พัลไมรัส, ครูเซโร, เจียงซู ซูหนิง ก่อนที่จะยุติบทบาทของการค้าแข้งในที่สุด

และล่าสุด รามิเรส ได้ออกมากล่าวว่า “หลังจากการไตร่ตรองบางอย่าง ผมต้องการแจ้งให้คุณทราบว่าผมได้ตัดสินใจยุติอาชีพนักฟุตบอลอาชีพอย่างเป็นทางการแล้ว ณ จุดนี้ ฉันสามารถขอบคุณพระเจ้าก่อนสำหรับการฝึกฝนให้ผมและพาผมไปสู่ระดับสูงสุดที่ฟุตบอลสามารถให้ได้ ขอบคุณมากสำหรับสโมสรทั้งหมดที่ฉันผ่านมาทั้ง พัลไมรัส, เบนฟิกา, เชลซี, ครูเซโร และเจียงซู ซูหนิง ซึ่งผมจะเก็บความทรงจำของพวกคุณและแฟนบอลของพวกคุณไว้ในใจตลอดไป”

“ผมขอขอบคุณทีมชาติบราซิลที่ทำให้ผมทำตามความฝันสำหรับการลงเล่นฟุตบอลโลก 2 ครั้ง ผมขอบคุณเพื่อนร่วมทีม, สตาฟฟ์, โค้ช รวมถึงผู้จัดการทีมทุกคนที่ผมเคยร่วมงานด้วย ผมขอบคุณครอบครัวและเพื่อนของผมมาตลอดหลายปี และร่วมยินดีไปกับความสำเร็จของผม ซึ่งผมถือว่าเป็นกำลังใจที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของผมมาโดยตลอด ตอนนี้ผมกำลังจะมุ่งหน้าไปในเส้นทางใหม่ ผมไม่เคยคาดหวังมาก่อนว่าจะได้ออกจากบราซิลไปคว้าชัยชนะไปทั่วโลกกับหลายสโมสร ผมขอขอบคุณฟุตบอลสำหรับทุกอย่างที่ผ่านมา”

ผลบอลสด : ผลบอลสดบนมือถือ

ตารางคะแนน

ทีเด็ดบอลเต็งประจำวันที่ 24/4/65